Sorry, but you are looking for something that isn’t here.

It looks like nothing was found at this location. Maybe try a search?

Latest Info

คำอธิบายอย่างอย่างง่ายสำหรับเงื่อนไข CIF และ CFR!

Contents1 CIF คืออะไร ?2 ลักษณะของเงื่อนไข CIF3 ต้นทุนสินค้าและความเสี่ยงเปลี่ยนจากผู้ส่งออกเป็นผู้นำเข้าในเงื่อนไข CIF ได้อย่างไร ?4 เงื่อนไข CFR5 สรุป CIF คืออะไร ? CIF ย่อมาจาก Cost, Insurance, and Freight. โดยทั่วไปแล้ว จะตามหลังด้วยชื่อ Port ปลายทาง หรือ Port นำเข้าที่ระบุไว้ ซึ่งหมายถึงเงื่อนไขที่อยู่ภายใต้การชำระค่าขนส่งสินค้าและค่าประกันภัยล่วงหน้าโดยผู้ส่งออก ในเงื่อนไข CIF ผู้ส่งออกสินค้าจะรับผิดชอบค่าขนส่งสินค้าและค่าประกันภัยที่ Port จุดหมายปลายทาง ค่าประกันภัยในเงื่อนไข CIF จะถูกรับผิดชอบโดยผู้ขาย (หรือผู้ส่งออก) ซึ่งถูกกำหนดจำนวนค่าใช้จ่ายขั้นต่ำในการขอใบถิ่นกำเนิดกับสภาหอการค้านานาชาติ หากทางผู้ซื้อ (หรือผู้นำเข้า) ต้องการความคุ้มครองที่มากขึ้นของเงื่อนไขการประกันภัย พวกเขาจะต้องมีการตกลงกันในสัญญาให้เรียบร้อย ลักษณะของเงื่อนไข CIF ・ ในแง่ของต้นทุนและความเสี่ยงของการจัดส่งสินค้า ผู้ส่งออกและผู้นำเข้าจะต้องทำความเข้าใจถึงความแตกต่างว่า ลักษณะของเงื่อนไข CIF คือ ต้นทุนและความเสี่ยงของการจัดส่งสินค้าจากสถานที่ของผู้ส่งออกไปยังสถานที่ของผู้นำเข้า การรับผิดชอบความเสี่ยงในการเคลื่อนย้ายสินค้า จากผู้ส่งออกไปยังผู้นำเข้าบนพื้นที่เรือส่งสินค้าที่พอร์ตของผู้ส่งออก ซึ่งจัดเป็นสถานที่ส่งมอบสินค้า ในทางตรงกันข้าม ค่าขนส่งสินค้าและค่าประกันภัยในการขนส่งทางทะเล จะถูกชำระล่วงหน้าโดยผู้ส่งออก กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า ถึงแม้ความเสี่ยงในการเคลื่อนย้ายสินค้าจากผู้ส่งออกไปยังผู้นำเข้าจะเกิดขึ้นบนพื้นที่เรือขนส่งสินค้าในพอร์ตของผู้ส่งออก แต่ค่าขนส่งสินค้าและค่าประกันภัย จะถูกจ่ายล่วงหน้าโดยผู้ส่งออก ณ สถานที่ส่งออก ในเงื่อนไข CIF ผู้ส่งออกจะรับผิดชอบค่าขนส่งสินค้า ซึ่งเรียกว่า Freight Prepaid หรือ (fee prepayment). ซึ่งถูกกำหนดว่า การประกันภัยสำหรับเงื่อนไข CIF ประกันภายใต้เงื่อนไขของ FPA เป็นเงื่อนไขขั้นต่ำในการค้ำประกัน หากผู้นำเข้าต้องการประกันภัยที่ครอบคลุมมากขึ้นนั้น จะต้องทำเงื่อนไขและข้อตกลงในสัญญาให้เป็นที่เรียบร้อย ต้นทุนสินค้าและความเสี่ยงเปลี่ยนจากผู้ส่งออกเป็นผู้นำเข้าในเงื่อนไข CIF ได้อย่างไร ? ・ ความรับผิดชอบของผู้ส่งออกจะหมดภาระลง เมื่อสินค้าถูกยกขึ้นไปวางบนเรือในท่าเรือประเทศผู้ส่งออก และรับผิดชอบค่าใช้ขนส่งสินค้า ภายใต้เงื่อนไข CIF การขนส่งสินค้าจะสิ้นสุดลงเมื่อสินค้ามีการจัดส่ง ผู้รับผิดชอบความเสี่ยงจะถูกเปลี่ยนจากผู้ส่งออกเป็นผู้นำเข้าเมื่อสินค้าถูกวางลงในเรือ ถึงอย่างไรก็ตาม ผู้ส่งออกสินค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายสำหรับค่าปประกันภัยและ ค่า Shipping ตั้งแต่สินค้าถูกยกลงจากเรือที่ท่าเรือนำเข้าสินค้า เงื่อนไข CFR CFR เป็นชื่อย่อของ Cost and Freight และมักจะตามด้วยชื่อของพอร์ตปลายทาง / พอร์ตนำเข้าที่ได้ระบุ เช่น […]

คำอธิบายอย่างง่าย สำหรับเงื่อนไข DDP, DDU, และ also DAP!

Contents1 วิดีโอแอนนิเมชั่น เกี่ยวกับ DDP2 เงื่อนไข DDP คืออะไร ?3 ลักษณะของเงื่อนไข DDP4 ต้นทุนและความเสี่ยง เปลี่ยนจากผู้ส่งออกไปยังผู้นำเข้าในเงื่อนไข DDP ได้อย่างไร ?5 เงื่อนไข DDU คืออะไร ?6 ประเด็นที่แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับ DDU ใน Incoterms 20107 DAP คืออะไร ?8 สรุป วิดีโอแอนนิเมชั่น เกี่ยวกับ DDP เงื่อนไข DDP คืออะไร ? ・เงื่อนไขนี้ ทางผู้ส่งออก จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าขนส่งสินค้าและค่าประกันภัย เงื่อนไข DDP ย่อมาจาก “Delivered Duty Paid” เป็นหนึ่งในเงื่อนไขและข้อตกลงในการส่งสินค้า เงื่อนไข DDP ผู้ส่งออกจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเรื่องค่าขนส่งและค่าประกันภัย ซึ่งเงื่อนไขนี้รวมอยู่ใน กลุ่ม D ใน Incoterms ลักษณะของเงื่อนไข DDP ・เงื่อนไข DDP ทางผู้ส่งออกจะเป็นผู้รับผิดชอบงานและความเสี่ยงมากกว่าทางผู้นำเข้า ซึ่งทางผู้ส่งออกจะต้องรับผิดชอบการทำพิธีการศุลกากรขาเข้าด้วยเช่นกัน DDP เป็นเงื่อนไขที่ง่ายที่สุดสำหรับผู้นำเข้า ซึ่งในทางกลับกันผู้ส่งออกคือผู้รับผิดชอบงานต่างๆในเงื่อนไขนี้ ผู้ส่งออกจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าขนส่งสินค้าและค่าประกันภัยจนกว่าสินค้าจะถูกส่งไปยังปลายทางที่กำหนดในประเทศผู้นำเข้า DDP คือเงื่อนไขเดียวที่ผู้ส่งออกจะเป็นผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับพิธีการศุลกากรนำเข้าเท่านั้น ซึ่งรวมไปถึงจ่ายค่าขนส่งสินค้าไปยังประเทศผู้นำเข้า หรือกล่าวได้ว่า ผู้ส่งออกเป็นผู้จ่ายค่าระวางและการประกันภัยและรับความเสี่ยงจนกว่าสินค้าจะถึงปลายทางที่กำหนด ดังนั้น ผู้ส่งออกควรมีประสบการณ์ในการส่งออกสินค้า อาธิเช่น มีความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวแทนผู้ส่งออกสินค้าหรือผู้ให้บริการ ไม่เพียงแต่ในประเทศผู้ส่งออกแต่ยังรวมไปถึงในประเทศผู้นำเข้าด้วย ในทางตรงข้าม เงื่อนไข DDP ในมุมมองของผู้นำเข้า เป็นข้อกำหนดและเงื่อนไขที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุด อย่างไรก็ตามหากผู้ส่งออกต้องการเอกสารสำหรับขั้นตอนพิธีการศุลกากร ผู้นำเข้าจะต้องให้ความร่วมมือกับขั้นตอนนี้ ต้นทุนและความเสี่ยง เปลี่ยนจากผู้ส่งออกไปยังผู้นำเข้าในเงื่อนไข DDP ได้อย่างไร ? ・ความรับผิดชอบของผู้ส่งออกจะเสร็จสิ้น ที่จุดหมายปลายทางที่กำหนดหลังจากผ่านพิธีการศุลกากรนำเข้า ในเงื่อนไข DDP การถ่ายโอนความรับผิดชอบจากผู้ส่งออกไปยังผู้นำเข้า อยู่ที่ปลายทางที่กำหนดซึ่งกำหนดไว้ในสัญญา ผู้ส่งออกมีหน้าที่รับผิดชอบค่าขนส่งสินค้า ค่าประกันภัย ค่าพิธีการศุลกากรขาเข้า ภาษีนำเข้าและภาษีอื่นๆ อีกทั้งผู้ส่งออกมีหน้าที่รับผิดชอบความเสี่ยงระหว่างการขนส่งสินค้า หากเกิดความเสียหายขึ้น ทางผู้ส่งออกจะต้องชดเชยทั้งหมด เงื่อนไข DDU คืออะไร ? DDU ย่อมาจาก “Delivered Duty Unpaid” เป็นเงื่อนไขหนึ่งใน Incoterms ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม […]

คำอธิบายอย่างง่าย สำหรับเงื่อนไขและการรับผิดชอบในการขนส่งสินค้าแบบ EXW

Contents1 วิดีโอแอนนิเมชั่น เกี่ยวกับ EXW2 เงื่อนไข EXW3 EXW คืออะไร?4 ผู้ขายส่งมอบของให้แก่ผู้ซื้อ ณ ที่ทำการของผู้ขาย 5 ภาระค่าใช้จ่ายและภาระความเสี่ยงใน EXW 6 เงื่อนไข EXW คืออะไร ในมุมมองของผู้ส่งออก7 ข้อได้เปรียบและข้อเสียเปรียบสำหรับผู้ส่งออกในเงื่อนไข EXW 7.1 ข้อได้เปรียบสำหรับผู้ส่งออก 7.1.1 ข้อได้เปรียบสำหรับผู้ส่งออกเมื่อใช้เงื่อนไข EXW 7.2 ข้อเสียเปรียบสำหรับผู้ส่ง7.2.1 ข้อได้เปรียบสำหรับผู้ส่งออกเมื่อใช้เงื่อนไข EXW 8 เงื่อนไข EXW คืออะไร? ในมุมมองของผู้นำเข้า9 ข้อได้เปรียบและข้อเสียเปรียบสำหรับผู้นำเข้าในเงื่อนไข EXW9.1 สิทธิประโยชน์ของผู้นำเข้า 9.1.1 ข้อได้เปรียบของผู้นำเข้าในการใช้เงื่อนไข EXW 9.2 ข้อเสียเปรียบสำหรับผู้นำเข้า9.2.1 ข้อเสียเปรียบของผู้นำเข้าในการใช้เงื่อนไข EXW10 สรุป วิดีโอแอนนิเมชั่น เกี่ยวกับ EXW เงื่อนไข EXW EXW (EX Works) เป็นหนึ่งในเงื่อนไขและข้อตกลงในการขายสินค้าที่เรียกว่า INCOTERMS EXW คืออะไร? ・EXW เป็นเงื่อนไขการค้าที่เป็นภาระน้อยที่สุดสำหรับผู้ขายสินค้า! Incoterms (International Commercial Terms) คือ เป็นข้อกําหนดในการส่งมอบสินค้า หรือเงื่อนไขการส่งมอบสินค้า โดยกำหนดเป็นมาตรฐานความหมายการค้าที่ใช้ตกลงในการทำสัญญาซื้อขายระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายที่เป็นสากล มีทั้งหมด 11 รูปแบบ ผู้ขายส่งมอบของให้แก่ผู้ซื้อ ณ ที่ทำการของผู้ขาย ・ผู้ขายส่งมอบของให้แก่ผู้ซื้อ ณ ที่ทำการของผู้ขาย เช่น โรงงาน หรือโรงพักสินค้า ฯลฯ โดย ผู้ซื้อรับภาระในการดำเนินการและค่าใช้จ่ายรวมทั้งความเสี่ยงหลังจากการส่งมอบของแล้ว เช่น การขนของขึ้นยานพาหนะ การปฏิบัติพิธีการขาออก เป็นต้น ผู้ขายจะมีหน้าที่เตรียมสินค้าไว้ และเตรียมส่งมอง ณ สถานที่ของผู้ส่งออก หลายคนเรียกเทอมแบบนี้ว่า “ราคาหน้าโรงงาน” ผู้ซื้อจะต้องรับผิดชอบตั้งแต่ขนสินค้าขึ้นรถ ทำศุลกากรทั้งขาเข้าและขาออก แต่สามารถขอความช่วยเหลือจากผู้ขายได้ ภาระค่าใช้จ่ายและภาระความเสี่ยงใน EXW ・ต้นทุนและความเสี่ยงของผู้ซื้อ ณ สถานที่ตั้งของผู้ขาย เงื่อนไข EXW คือ เมื่อผู้ซื้อได้ทำการส่งสินค้าไปยังผู้ขาย ณ โรงงานหรือโกดังเก็บสินค้าแล้ว ความรับผิดชอบเรื่องต้นทุนต่างๆ และความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้น จะถือว่าเป็นของผู้ซื้อ […]

บทความเกี่ยวกับการประกันภัยทางทะเล และ เงื่อนไขการประกัน! เพื่อป้องกันความเสี่ยง ต่อความเสียหายของสินค้า ในระหว่างการขนส่ง เราจำเป็นต้องทราบประเภทของการประกันภัยทางทะเล

การประกันภัยทางทะเลเป็นหนึ่งในการจัดการความเสี่ยงที่จำเป็นในการทำการค้า บริษัทเอกชนมีประกันสองประเภทหลัก ๆ คือการประกันวินาศภัยและประกันชีวิต, และสิ่งที่ใช้ในการค้าคือการประกันภัยทางทะเลที่เรียกว่า ” Marine ” ซึ่งอยู่ในประเภทการประกันวินาศภัย บทความนี้ เราจะมาดูกัน เกี่ยวกับประกันในการขนส่งสินค้า ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการซื้อขาย Contents1 กลุ่มคนที่เกี่ยวข้องในการประกันการขนส่งสินค้า2 ระยะเวลาประกัน3 มูลค่าประกันภัย และ จำนวนเงินประกันภัย4 ประเภทของความเสียหายในการขนส่งทางทะเล4.1 สูญเสียทั้งหมด4.1.1 การสูญเสียรวมที่เกิดขึ้นจริง4.1.2 การกำหนดให้สูญเสียทั้งหมด4.2 การสูญเสียบางส่วน4.2.1 ค่าเฉลี่ยเฉพาะ4.2.2 การเฉลี่ยโดยทั่วไป5 เงื่อนไขการประกัน5.1 FPA (Free From Particular Average)5.2 WA (With Average / With Particular Average) 5.3 A/R (All Risks) 6 บทสรุป กลุ่มคนที่เกี่ยวข้องในการประกันการขนส่งสินค้า บริษัท ประกันภัยที่จ่ายเงินประกันเรียกว่า ผู้ให้ประกัน (Assurer) นอกจากนี้บุคคลที่สามารถรับประกันภัยเรียกว่า ผู้เอาประกันภัย ระยะเวลาประกัน ประกันภัย เช่น ประกันภัยรถยนต์ และ ประกันอัคคีภัย มักจะทำสัญญาเป็นรายปี อย่างไรก็ตามระยะเวลาการประกันภัยของการประกันภัยการขนส่งสินค้าไม่ได้ถูกกำหนดไว้เป็นระยะเวลา แต่จะถูกกำหนดจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ตามกฎระเบียบของสถาบัน Cargo Clause (ICC) ระยะเวลาของการประกันสำหรับการขนส่งสินค้าโดยหลักการคือ Warehouse to Warehouse ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่คลังสินค้าของสถานที่ต้นทาง ไปยังคลังสินค้าปลายทาง มูลค่าประกันภัย และ จำนวนเงินประกันภัย จำนวนเงินประกันที่จ่ายในกรณีที่เกิดการสูญเสียจะถูกกำหนดอย่างไร? ซึ่งจะพิจารณาจากมูลค่าของสินค้า ปัจจุบันมูลค่าการประกันอยู่ที่ 110% ของราคา CIF ขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างผู้รับประกัน กับ ผู้เอาประกันภัย จำนวนเงินสูงสุดของการประกันที่สามารถชำระได้เรียกว่าจำนวนเงินประกัน จำนวนเงินจะถูกกำหนดภายในช่วงของมูลค่าการประกัน ประเภทของความเสียหายในการขนส่งทางทะเล ความเสียหายที่เกิดจากการขนส่งทางทะเลแบ่งออกเป็นความเสียหายต่อทรัพย์สิน และ ค่าใช้จ่ายอื่น เช่นค่าช่วยเหลือ ความเสียหายต่อทรัพย์สินแบ่งออกเป็นการสูญเสียทั้งหมดที่ทำให้สินค้าเสียหายทั้งหมด และ การสูญเสียบางส่วนที่สินค้าเสียหายบางส่วน มาดูความเสียหายทางทะเลแต่ละประเภทในหัวข้อต่อไป สูญเสียทั้งหมด การสูญเสียทั้งหมดหมายความว่า สินค้าทั้งหมดสูญเสียมูลค่า ในกรณีของการขนส่งทางทะเลตัวอย่าง เช่น หากข้าวทั้งหมดได้รับความเสียหายเนื่องจากการแช่น้ำหรือหากไม่สามารถกู้ได้เนื่องจากการจมเรือกรณีเหล่านี้สินค้าจะสูญเสียทั้งหมด การสูญเสียรวมที่เกิดขึ้นจริง การสูญเสียทั้งหมดที่เกิดขึ้นจริงมีค่าต่อมูลค่าของสินค้าที่สูญหายทั้งหมด ในกรณีนี้จำนวนเงินประกันจะจ่ายเต็มจำนวน การกำหนดให้สูญเสียทั้งหมด แม้ว่ามันจะเป็นการสูญเสียทั้งหมดที่เกิดขึ้นจริง ตัวอย่างเช่น ถ้าการจมของสินค้า และ ต้นทุนการกู้สินค้าสูงกว่าราคาของสินค้าก็อาจถือได้ว่าเป็นการสูญเสียทั้งหมด โดยการประเมินของ […]

ศุลกากร / พื้นที่ทัณฑ์บน และ การขนส่งสินค้าทัณฑ์บน! ประเภทของพื้นที่ทัณฑ์บนในญี่ปุ่น

ในงานด้านการขนส่งระหว่างประเทศ ความรู้เกี่ยวกับศุลกากรและภาษี มีความจำเป็นอย่างมากมาก เมื่อมีนำเข้าและส่งออก จะมีการเรียกเก็บภาษีศุลกากร ตามระเบียบของแต่ละประเทศ แต่ในความเป็นจริงแล้วสินค้าจะไม่ถูกคิดภาษีทันทีเมื่อเดินทางมาถึง คุณรู้หรือไม่ว่ามีสถานที่ที่ไม่มีภาษีในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เรียกว่าเขตศุลกากรหรือเขตการค้าเสรี มาดูที่เขตศุลกากรและการขนส่งทัณฑ์บน เพื่อที่จะขนส่งสินค้าได้อย่างราบรื่น และ สะดวกในการซื้อขาย Contents1 “คลังสินค้าทัณฑ์บน” คืออะไร ?2 พื้นที่ศุลกากรของญี่ปุ่น2.1 พื้นที่ทัณฑ์บน2.2 คลังสินค้าทัณฑ์บน2.3 โกดังผลิตสินค้าศุลกากร2.4 พื้นที่จัดแสดงศุลกากร2.5 พื้นที่ศุลกากรที่ครอบคลุม3 การขนส่งสินค้า ทัณฑ์บน4 เขตศุลกากรในต่างประเทศ5 บทสรุป “คลังสินค้าทัณฑ์บน” คืออะไร ? “ทัณฑ์บน” หมายถึงการเลื่อนเวลาการเก็บภาษีของสินค้านำเข้าในช่วงระยะเวลาหนึ่งจนกว่าจะได้รับใบอนุญาตนำเข้า โดยหลักการแล้วสินค้าจะถูกวางไว้ในเขตศุลกากร คำว่า “ทัณฑ์บน” แต่เดิมใช้สำหรับสินค้านำเข้า อย่างไรก็ตามสินค้าที่ส่งออกอาจถูกนำเข้าไปในเขตศุลกากรเพื่อทำการดำเนินการต่อ ดังนั้น เขตศุลกากรจึงเกี่ยวข้องกับการ นำเข้า และ ส่งออก ในบางประเทศมีการจัดตั้งเขตการค้าเสรีนอกเหนือจากพื้นที่ศุลกากร โดยทั่วไปเขตการค้าเสรีถูกกำหนดให้กว้างกว่าพื้นที่ศุลกากรและพื้นที่เหล่านี้ได้รับการจัดตั้งขึ้นในประเทศกำลังพัฒนาและเขตชายแดนเพื่อส่งเสริมการค้าขาย พื้นที่ศุลกากรของญี่ปุ่น ญี่ปุ่นมีพื้นที่ศุลกากรหลักๆ 5 ประเภท มันถูกใช้อย่างเหมาะสม โดยขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้า สถานที่ และ วัตถุประสงค์ในการทำงาน พื้นที่ที่ถูกกำหนดจะต้องได้รับอนุมัติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและอื่น ๆ ให้ได้รับการอนุมัติให้เป็นเขตศุลกากรโดยได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการฝ่ายศุลกากร ต่อไปจะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับพื้นที่ศุลกากรของญี่ปุ่นและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้อง พื้นที่ทัณฑ์บน พื้นที่ ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนดให้เป็นสถานที่ที่สามารถขนถ่ายสินค้าต่างประเทศ ขนถ่ายขนย้าย และ จัดเก็บชั่วคราว (ภายใน 1 เดือนนับจากเวลาส่งมอบ) คลังสินค้าทัณฑ์บน หมายถึงสถานที่ ที่กำหนดโดยผู้อำนวยการศุลกากร ให้เป็นสถานที่ที่สามารถโหลดและขนถ่ายสินค้าต่างประเทศขนส่งและจัดเก็บ (ภายใน 3 เดือนนับจากเวลาของการจัดส่ง) นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่จะเก็บสินค้าต่างประเทศได้นานถึงสองปีนับจากวันที่ได้รับอนุมัติจากการอนุมัติของผู้อำนวยการศุลกากร การอนุญาตนี้อาจรวมไปถึง ศูนย์กระจายสินค้าคลังสินค้าแช่เย็นและแช่แข็งและไซโลที่เก็บเมล็ดพืช โกดังผลิตสินค้าศุลกากร คือ สถานที่ ที่สามารถทำงานทัณฑ์บนได้โดยได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการศุลกากร โดยหลังจากอนุมัติ สินค้าต่างประเทศสามารถเก็บไว้เป็นเวลาสองปีนับจากวันที่ได้รับอนุมัติ งานทัณฑ์บนจะทำได้ก็ต่อเมื่อ หลังจากได้รับการอนุมัติการโอนก่อน ในความเป็นจริง โรงงานเหล็ก โรงกลั่น โรงงานอาหาร ฯลฯ จะผลิตผลิตภัณฑ์ภายใต้การอนุญาตนี้ โรงงานทัณฑ์บน ในญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะลดลง เนื่องจากการลดลงของปริมาณการค้า การแปรรูป และมีโรงงานทัณฑ์บนนอกประเทศญี่ปุ่น ○ อย่างไรก็ตามงานทัณฑ์บนนั้น จำกัดอยู่ที่งานประจำเช่นการผลิต (รวมถึงการผสม) ที่ทำจากสินค้าจากต่างประเทศการตรวจสอบเนื้อหาการปรับปรุง (เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์) การเรียงลำดับการดูแลสินค้า ฯลฯ พื้นที่จัดแสดงศุลกากร คือสถานที่ ที่สามารถใช้เป็นห้องโถงนิทรรศการสำหรับการขนส่งสินค้าต่างประเทศ สถานที่นี้ได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการฝ่ายศุลกากรเรียกว่าพื้นที่จัดแสดงศุลกากร การจัดแสดงนิทรรศการระดับนานาชาติ เช่น การแสดงรถยนต์หรูมัก […]

To the top