This post is also available in: enEnglish ja日本語 thไทย

เมื่อเราเลือกที่จะจัดส่งสินค้าทางทะเล สินค้าจะถูกส่งไปถึงมือลูกค้าได้อย่างไร? แน่นอน การส่งสินค้าไปยังต่างประเทศย่อมแตกต่างกับการส่งภายในประเทศ โดยสินค้าจะต้องผ่านพิธีการหลายขั้นตอน บทความนี้เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับกระบวนการ ในการส่งสินค้าระหว่างประเทศ ตั้งแต่รับสินค้าต้นทาง ไปจนถึงการส่งสินค้าถึงปลายทาง

1.การโหลดสินค้า ใส่ตู้คอนเทนเนอร์/รถบรรทุก

การจัดส่งสินค้า แบบ FCL(Full Container Load)

เมื่อสินค้าที่โรงงานพร้อมจัดส่ง สินค้าจะถูกบรรจุลงกล่องหรือนำจัดเรียงไว้บน pallet โดยจะขึ้นอยู่กับชนิดของสินค้านั้นๆ หลังจากนั้นสินค้าจะถูกโหลดขึ้นตู้คอนเทนเนอร์ โดยรถโฟล์คลิฟ หรือ ยกโดยแรงงานคน ซึ่งโดยปกติแล้วหน้าที่ในการโหลดสินค้าจะเป็นของผู้ส่งออก

การจัดส่งสินค้า แบบ LCL(Less Than Container Load)

ในกรณีที่สินค้ามีจำนวนไม่มากพอที่จะโหลดใส่ตู้ตอนเทนเนอร์ได้ เราขอแนะนำให้คุณส่งสินค้าแบบ LCL ซึ่งในกรณีนี้ สินค้าจะถูกส่งมาจากโรงงานโดยรถบรรทุก และนำมาโหลดใส่ตู้คอนเทนเนอร์ รวมกับสินค้าอื่นๆ ที่ CFS (Container Freight Station)

เอกสาร

ผู้ส่งออกสินค้าจะต้องเตรียมเอกสาร Invoice และ Packing เมื่อได้ทำการจองเรือที่แน่นอนแล้ว และส่ง VGM ให้ forwarders หลังจากที่โหลดสินค้าเสร็จแล้ว เพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

【บทความที่เกี่ยวข้อง】
How to make booking of Ocean Export Cargo to Forwarder?Explained the procedure of FCL Sea Shipment
Which has the benefit, FLC or LCL? Explained how to calculate the BreakEve point of LCL shipment from Thailand

2. สินค้าถูกขนย้ายไปยัง Terminal และ CFS

กรณีการจัดส่งสินค้า แบบ FCL

ตู้สินค้าที่โหลดเสร็จแล้วจะถูกขนส่งมายังท่าเรือโดยรถหัวลากตู้คอนเทนเนอร์จะถูกโหลดลงจากรถและจัดเก็บไว้ที่เทอร์มินอลเพื่อรอโหลดขึ้นเรือ

กรณีการจัดส่งสินค้า แบบ LCL


สินค้าจะถูกขนส่งไปโหลดสินค้าที่บริเวณ CFS เพื่อโหลดรวมกับสินค้าอื่นๆ หลังจากบรรจุสินค้าเสร็จแล้วตู้จะถูกขนส่งไปยังเทอร์มินอลเพื่อรอโหลดขึ้นเรือ

3. พิธีการศุลกากรเพื่อการส่งออก


การดำเนินการทางด้านเอกสารทางศุลกากรต้องเสร็จสิ้นก่อนที่สินค้าจะผ่านเข้าประตูท่าเรือ ในกระบวนการทางศุลกากรนั้น Shipping ผู้รับผิดชอบ จะต้องแจ้งข้อมูลที่สำคัญต่างๆเช่น Invoice, Packing List, Export License etc. ทางระบบ (EDI)

4. ตู้สินค้าถูกโหลดขึ้นเรือ


ที่บริเวณท่าเทียบเรือ ตู้สินค้าจะถูกโหลดขึ้นเรือด้วยเครน

5. ส่งออกทางทะเล

Direct service

ภาพจากสายเรือ ONE(Ocean Network Express Co.,Ltd)

เรือที่โหลดสินค้าเสร็จแล้ว จะเดินทางไปตามเส้นทางการเดินเรือที่กำหนด สำหรับการขนส่งสินค้าไปยังปลายทางโดยตรง (Direct service) นั้น ตู้สินค้าจะไม่ถูกย้ายลงจากเรือหรือเปลี่ยนเรือในระหว่างการเดินทางไปยังปลายทาง ซึ่งจะเป็นจะใช้เรือลำเดิมตั้งแต่ออกท่าเรือต้นทางไปจนถึงท่าเรือปลายทาง

Transship service

สำหรับ Transship service ตู้สินค้าจะไม่ได้เดินทางไปยังท่าเรือปลายทางโดยเรือลำเดิม แต่จะต้องแวะไปเปลี่ยนเรือ ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละสายเรือว่าจะต้องแวะเปลี่ยนที่ท่าเรือไหน เช่น Singapore / Port Klang

ยกตัวอย่างเช่น ตู้สินค้าที่ถูกส่งไปยังประเทศญี่ปุ่น บางสายเรือ ต้องไปแวะเปลี่ยนเรือที่ Busan ก่อน ถึงจะส่งต่อไปยังท่าเรือปลายทางได้

เอกสาร

เอกสาร B/L จะออกได้ก็ต่อเมื่อเรือออกจากท่าเรือต้นทางแล้วเท่านั้น

【บทความที่เกี่ยวข้อง】
What is B/L in Logistics? Explained B/L role and flow with illustrations

6. เมื่อเรือเดินทางถึงท่าเรือปลายทาง

การนำตู้สินค้าลงจากเรือ

เมื่อเรือเดินทางถึงท่าเรือปลายทาง ตู้สินค้าจะถูกยกลงจากเรือโดยเครน หลังจากนั้นตู้จะถูกย้ายไปจัดเก็บที่เทอมินอล เพื่อรอการเคลียร์สินค้าขาออกจากผู้นำเข้าสินค้า

เอกสาร

เอกสาร Arrival Notice จะออก ก่อนวันเรือถึงประมาณ 2-3 วัน ซึ่งผู้นำเข้าสินค้าจะต้องใช้เอกสาร B/L และ Arrival Notice เพื่อแลก D/O สำหรับการรับตู้สินค้าออกจากเทอร์มินอล

7. พิธีการศุลกากรเพื่อการนำเข้า

ตามเอกสาร Invoice, packing list และเอกสารที่จำเป็นอื่นๆ เช่นเอกสาร certificate of origin, import permit เป็นต้น หลังจากนั้น Shipping ที่มีหน้าที่เคลียสินค้าขาเข้าจะแจ้งเข้าไปในระบบ ซึ่งจะแตกต่างกับพิธีการส่งสินค้าขาออก เพราะการเคลียร์สินค้าขาเข้าจะมีขั้นตอนที่เข้มงวดและยุ่งยากกว่า

8. การรับสินค้า

ตู้สินค้าจะต้องผ่านพิธีการศุลกากรขาเข้าก่อน ถึงจะสามารถนำตู้สินค้าออกจากเทอมินอลได้ ซึ่งในขั้นตอนนี้ต้องยื่นเอกสาร D/O ด้วย

กรณีการส่งสินค้าแบบ FCL


รถหัวลากจะเข้าไปรับตู้คอนเทนเนอร์ที่เทอร์มินอลและไปส่งยังโรงงานปลายทาง

กรณีการส่งสินค้าแบบ LCL

สินค้าจะถูก โหลดออกจากตู้ ที่ CFS และ รับสินค้าออกมาโดยรถบรรทุกเพื่อไปยังโรงงานปลายทาง

9. การจัดส่งสินค้าไปยังโรงงาน และนำสินค้าออกจากตู้

สินค้าเมื่อออกจะเทอร์มินอลแล้วก็จะเดินทางไปยังโรงงานปลายทาง ซึ่งที่โรงงาน สินค้าจะถูกยกลงด้วยรถโฟล์คลิฟหรือด้วยแรงงานคน

บทสรุป

เนื่องจากสินค้าถูกส่งไปยังต่างประเทศ ตู้คอนเทนเนอร์ที่ได้มาตรฐานก็เป็นสิ่งหนึ่งที่จะทำให้สินค้าไปถึงปลายทางได้อย่างปลอดภัย และการดำเนินพิธีการศุลกากรที่ถูกต้องก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากเช่นกัน

ซึ่งเมื่อเราเข้าใจกระบวนการทั้งหมดแล้ว จะทำให้เราทราบว่าสินค้าของเราจะถูกส่งออกไปในทิศทางใด และ แก้ปัญหาได้อย่างถูกจุด และ รวดเร็วเมื่อเกิดปัญหา