Posted on: October 30, 2025 / Last updated: October 30, 2025
ศึกฟอร์เวอร์เดอร์ระดับโลก! DSV ปะทะ Kuehne + Nagel แย่งชิงลูกค้า
ปี 2025 อุตสาหกรรมฟอร์เวอร์ดิ้งกำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
สองยักษ์ใหญ่คือ DSV (เดนมาร์ก) และ Kuehne + Nagel (สวิตเซอร์แลนด์)
ทั้งสองบริษัทกำลังทำสงคราม แย่งชิงลูกค้า อย่างเข้มข้นในตลาดโลจิสติกส์โลก
เวทีการแข่งขันคือ “ฤดูกาลเสนอราคา” หรือ Tender Season ซึ่งจะชี้ชะตาว่าใครจะครองตลาดเส้นทางหลักของโลก
CONTENTS
DSV เดินเกมใหญ่ ซื้อกิจการ DB Schenker
ในปี 2025 DSV ได้เข้าซื้อ DB Schenker จากเยอรมนี มูลค่า 16.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2 ล้านล้านเยน)
นี่คือการซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท
ดีลนี้ทำให้ DSV กลายเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการขนส่งสินค้าระดับโลกที่ใหญ่ที่สุด
แต่การขยายตัวก็มีความเสี่ยง โดยเฉพาะเรื่อง การสูญเสียลูกค้า
ในอดีตหลังการควบรวม DSV เคยสูญเสียลูกค้ารายใหญ่บางรายให้คู่แข่ง และครั้งนี้เป็นการทดสอบครั้งสำคัญที่สุดของบริษัท
ฤดูกาลเสนอราคามาถึง บททดสอบจริงของการควบรวม
CFO ไมเคิล เอบเบ กล่าวระหว่างการแถลงผลประกอบการว่า
“คู่แข่งทั้งหมดกำลังจับตาเรา แต่เรายังเป็นผู้นำตลาด แม้ยังไม่มีการสูญเสียลูกค้า แต่ช่วง Tender Season นี้จะเป็นบททดสอบจริง”
ช่วงนี้ของปีคือเวลาที่ลูกค้าทบทวนสัญญาขนส่งสินค้าใหม่
โดยเฉพาะเส้นทางเอเชีย–ยุโรป และเส้นทางข้ามแปซิฟิก ที่มีการแข่งขันรุนแรงที่สุด
ผลลัพธ์ของฤดูกาลนี้จะเป็นตัวชี้วัดว่า DSV จะรักษาฐานลูกค้าไว้ได้หรือไม่
Kuehne + Nagel ใช้จังหวะรุกตีจาก “ช่องโหว่” ของ DSV
Kuehne + Nagel (K+N) จากสวิตเซอร์แลนด์ ใช้ช่วงเวลานี้ในการโจมตี
CEO สเตฟาน พอล กล่าวว่า “เรากำลังเพิ่มส่วนแบ่งตลาดขนส่งทางอากาศ โดยใช้จุดอ่อนจากการควบรวมของ DSV ให้เป็นประโยชน์”
K+N เริ่มจาก การขนส่งทางอากาศ ที่สามารถเปลี่ยนลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
จากนั้นจะบุกต่อใน การขนส่งทางทะเล ที่มีรอบเสนอราคา RFQ ปีละสองครั้ง
สำหรับ K+N นี่คือ โอกาสในการพลิกเกม
ผลประกอบการเผยให้เห็น “แนวรบ”
- DSV ไตรมาส 3 ปี 2025
รายได้: 11.7 พันล้านดอลลาร์ (+63%)
กำไรจากการดำเนินงาน: 842 ล้านดอลลาร์ (+23%)
กำไรสุทธิ: 335 ล้านดอลลาร์ (−24%) - Kuehne + Nagel ไตรมาส 3 ปี 2025
รายได้: 7.6 พันล้านดอลลาร์ (−7%)
EBIT: 358 ล้านดอลลาร์ (−37%)
กำไรสุทธิ: 259 ล้านดอลลาร์ (−36%)
แม้ DSV จะดูเติบโตจากการควบรวม แต่ปริมาณการขนส่งจริงลดลง 5%
ในทางกลับกัน K+N กำลังลงทุนใน AI และระบบอัตโนมัติ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพระยะยาว
สองกลยุทธ์ ต่างสไตล์ ต่างแนวรบ
- DSV: ขยายเครือข่ายด้วยการเข้าซื้อกิจการ เน้นความครอบคลุมและขนาด
- K+N: เน้นความยืดหยุ่น ความเร็ว และบริการเฉพาะลูกค้า
นี่คือศึกแห่ง “ขนาด กับ ความคล่องตัว” และ “การรวม กับ ความเร็ว”
บทสรุป: สงครามฟอร์เวอร์เดอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย “ลูกค้า”
DSV ใช้การควบรวมกับ DB Schenker เพื่อเสริมอำนาจ ส่วน Kuehne + Nagel ใช้ความคล่องตัวเพื่อตอบโต้.
การแข่งขันในอุตสาหกรรมฟอร์เวอร์ดิ้งไม่ได้วัดกันที่ราคาอีกต่อไป
“ใครเข้าใจลูกค้ามากที่สุด” — คือคำถามที่กำหนดทิศทางของโลจิสติกส์โลกในวันนี้






