Posted on: November 11, 2025 / Last updated: November 11, 2025
คลองสุเอซเริ่มกลับมาอีกครั้ง! การเดินเรือทดลองเปิดทาง “เส้นเลือดใหญ่ของโลก”
หลังจากวิกฤตทะเลแดงผ่านมากว่าหนึ่งปี
คลองสุเอซ ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมทางทะเลที่เชื่อมเอเชียกับยุโรป กำลังเริ่มขยับตัวเพื่อกลับมาเปิดใช้อีกครั้ง
องค์การคลองสุเอซ (SCA) ของอียิปต์ได้จัดประชุมกับบริษัทเดินเรือและตัวแทนกว่า 20 รายเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน
สองวันต่อมา ได้หารือทางออนไลน์กับผู้บริหารของ Maersk ซึ่งเป็นหนึ่งในสายเรือที่ใหญ่ที่สุดของโลก
ประธาน Osama Rabie กล่าวว่า “เราได้ขุดลอกเส้นทางด้านตะวันตกของ Port Said เสร็จแล้วและเพิ่มความปลอดภัย” พร้อมเชิญชวนให้บริษัทเดินเรือ “ทดลองเดินเรือ” อีกครั้ง
หลังจากหยุดชะงักไปนาน โลจิสติกส์โลกอาจกลับมาใช้คลองสุเอซได้ในไม่ช้า
CONTENTS
จุดเปลี่ยนจากการสร้างเสถียรภาพและการประชุมสันติภาพ
การกลับมาเปิดคลองสุเอซเกิดขึ้นท่ามกลางการฟื้นฟูเสถียรภาพในภูมิภาค
การประชุมสันติภาพที่ Sharm El Sheikh ประเทศอียิปต์ในเดือนตุลาคม ช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายฝั่งทะเลแดงและลดความเสี่ยงในการเดินเรือ
ต่อมา CMA-CGM ได้ส่งเรือบรรทุกสินค้าขนาด 170,000 DWT จำนวน 2 ลำผ่านคลองสุเอซ
ตัวแทนของบริษัทกล่าวว่า “คลองสุเอซไม่มีทางเลือกอื่นทดแทนได้ CMA-CGM จะขยายกองเรือและเส้นทางผ่านคลองต่อไป”
ในขณะเดียวกัน MSC ซึ่งเป็นสายเรือคอนเทนเนอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก กล่าวว่า “ความมั่นคงในภูมิภาคทะเลแดงกำลังฟื้นตัว และคาดว่าจะมีการเดินเรือขาใต้เพิ่มขึ้น”
การกลับมาสู่คลองสุเอซจึงเริ่มเป็นรูปธรรมมากขึ้น
Maersk เน้น “ความปลอดภัยต้องมาก่อน”
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกสายเรือที่จะกลับมาพร้อมกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Maersk ที่ยังคงระมัดระวังในการตัดสินใจ
CEO Vincent Clerc กล่าวย้ำว่า “ความปลอดภัยของลูกเรือคือสิ่งสำคัญที่สุด” พร้อมระบุว่าบริษัทกำลังติดตามสถานการณ์ในช่องแคบ Bab el-Mandeb อย่างใกล้ชิด
COO Rabab Boulos กล่าวเพิ่มเติมว่า “เมื่อ Maersk กลับมาใช้คลองสุเอซ จะเป็นการกลับมาอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ใช่เพียงการทดลอง และเราจะเป็นสายเรือแรกที่กลับมาอย่างเป็นทางการ”
ท่าทีนี้สะท้อนถึงแนวทางของ Maersk ที่ให้ความสำคัญกับ การจัดการความเสี่ยงและความมั่นใจในความปลอดภัย มาโดยตลอด
ข้อเสนอจากสายเรือและความท้าทายของหน่วยงานคลองสุเอซ
ในที่ประชุมกับหน่วยงานคลองสุเอซ บริษัทเดินเรือและตัวแทนเสนอข้อเรียกร้องหลายประการ เช่น
- มาตรการจูงใจสำหรับเรือประเภทที่มีความยืดหยุ่น เช่น เรือบรรทุกน้ำมันและเรือบัลค์
- ระบบประเมินและเปิดเผยข้อมูลความปลอดภัยอย่างโปร่งใส
- เพิ่มการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความโปร่งใสในการเดินเรือ
ข้อเสนอเหล่านี้สะท้อนว่าบริษัทเดินเรือให้ความสำคัญกับ “ความปลอดภัยมากกว่าความเร็ว”
หน่วยงานคลองสุเอซจำเป็นต้อง แสดงข้อมูลความปลอดภัยอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการทั่วโลก
ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการกลับมาใช้คลองสุเอซ
การกลับมาเปิดคลองสุเอซจะสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมาก
หลังวิกฤตทะเลแดง เรือหลายลำต้องเปลี่ยนไปใช้เส้นทาง แหลมกู้ดโฮป ทางตอนใต้ของแอฟริกา ซึ่งเพิ่มเวลาเดินทาง 10–14 วัน และทำให้ต้นทุนเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นราว 20%
ผลที่ตามมาคือค่าระวางเรือเพิ่มสูงขึ้น และระยะเวลาขนส่งไปยุโรปยาวนานขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
หากคลองสุเอซกลับมาเปิดอย่างมั่นคง จะช่วยลดต้นทุน ปรับตารางเดินเรือให้เป็นปกติ และทำให้ค่าระวางกลับสู่ระดับสมดุล
สำหรับผู้ส่งออกในเอเชีย การกลับมาของ “การขนส่งที่คาดการณ์ได้” ถือเป็นความได้เปรียบครั้งสำคัญ
นอกจากนี้ การกลับมาใช้คลองสุเอซจะช่วยกระตุ้นการทำงานของท่าเรือในยุโรปและทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอีกด้วย
แนวโน้มในอนาคต: การกลับมาอย่างค่อยเป็นค่อยไป
การเปิดคลองสุเอซในครั้งนี้คาดว่าจะเป็น การกลับมาแบบค่อยเป็นค่อยไป มากกว่าการเปิดเต็มรูปแบบ
สายเรือยุโรปอย่าง CMA-CGM ได้เริ่มทดลองเดินเรือแล้ว และคาดว่า MSC และ Maersk จะกลับมาตามหลังเมื่อมั่นใจในความปลอดภัย
ในที่สุด สายเรือขนาดกลางและบริษัทเฉพาะทางก็จะเข้าร่วมในลำดับถัดไป
วิกฤตทะเลแดงได้เตือนให้โลกรู้ถึง “ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์” และคลองสุเอซยังคงพิสูจน์ความสำคัญในฐานะเส้นทางหลักของโลก
สรุป
การเชิญให้ทดลองเดินเรือของหน่วยงานคลองสุเอซถือเป็นก้าวสำคัญของโลจิสติกส์โลก CMA-CGM และ MSC เตรียมกลับมา ส่วน Maersk ยังคงระมัดระวังโดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัย.
บริษัทเดินเรือเรียกร้องให้มี ความโปร่งใสของข้อมูลและความปลอดภัยที่ตรวจสอบได้
เมื่อการกลับมาเปิดคลองดำเนินไป คาดว่าจะช่วยให้ค่าระวางและตารางการเดินเรือกลับสู่ภาวะปกติ
“เส้นเลือดใหญ่ทางทะเลของโลก” อย่างคลองสุเอซ กำลังกลับมาเต้นอีกครั้ง.






