Posted on: October 21, 2025 / Last updated: October 21, 2025
IMO เลื่อนการรับรองมาตรการลดก๊าซเรือนกระจกออกไป 1 ปี: “เบรกที่มองไม่เห็น” ของการลดคาร์บอนโลก

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2025 การประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมทางทะเลพิเศษ (MEPC) ขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) ที่กรุงลอนดอน มีมติให้เลื่อนการรับรองกรอบการดำเนินงาน Net Zero Framework (NZF) สำหรับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ในภาคการเดินเรือระหว่างประเทศออกไปอีกหนึ่งปี
กรอบ NZF มีเป้าหมายเพื่อกำหนดข้อบังคับด้านความเข้มข้นของการปล่อย GHG จากเชื้อเพลิงเรือ และส่งเสริมการใช้เรือพลังงานศูนย์คาร์บอน (Zero-emission vessels)
เดิมทีตั้งเป้าให้มีผลบังคับใช้ในเดือนมีนาคม 2027 แต่จะถูกเลื่อนไปอย่างน้อยถึงเดือนมีนาคม 2028
ในยุคที่โลกกำลังเร่งเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ การเลื่อนครั้งนี้ถือเป็นก้าวถอยสำคัญของอุตสาหกรรมเดินเรือ
CONTENTS
เบื้องหลังการเลื่อน: ความเห็นต่างทางการเมืองระหว่างประเทศ
สาเหตุหลักของการเลื่อนมาจากความแตกแยกทางความเห็นในระดับโลก
ข้อเสนอของซาอุดีอาระเบียได้รับการสนับสนุนจาก 57 ประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ รัสเซีย อิหร่าน และจีน ขณะที่ 49 ประเทศคัดค้าน และอีก 21 ประเทศงดออกเสียง
กลุ่มประเทศยุโรปและหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกเรียกร้องให้รับรองทันที แต่การประชุมเต็มไปด้วยความขัดแย้ง สุดท้ายที่ประชุมเห็นว่า “การเร่งรับรองอาจทำให้เกิดความแตกแยกมากขึ้น” และลงมติเห็นชอบให้เลื่อน
ญี่ปุ่นซึ่งเดิมสนับสนุนการรับรองทันที ได้เลือกงดออกเสียงในที่สุด โดยให้เหตุผลว่า “การลงมติอย่างเร่งด่วนอาจทำให้ข้อเสนอล่มเพราะเสียงคัดค้านจำนวนมาก”
กล่าวได้ว่าการเมืองระหว่างประเทศได้กลายเป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อนนโยบายสิ่งแวดล้อม
ผลกระทบต่อการลงทุนของอุตสาหกรรมเดินเรือ
การเลื่อนครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการตัดสินใจลงทุนในภาคเดินเรือ
NZF ถือเป็นกลไกหลักในการผลักดันภาคเดินเรือสู่การลดคาร์บอน โดยประกอบด้วยกลไกสำคัญสองประการคือ
- ข้อบังคับด้านความเข้มข้นของการปล่อย GHG จากเชื้อเพลิง
- มาตรการจูงใจทางเศรษฐกิจสำหรับเรือพลังงานศูนย์คาร์บอน
เมื่อความชัดเจนของกฎเกณฑ์หายไป บริษัทต่างๆ จึงชะลอการตัดสินใจลงทุน
การเปลี่ยนไปใช้เชื้อเพลิงใหม่ การปรับปรุงเครื่องยนต์ การทำสัญญาเชื้อเพลิงระยะยาว และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ล้วนต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ซึ่งไม่สามารถทำได้โดยไม่มีกรอบนโยบายที่แน่นอน
ผลที่ตามมาคือ การสั่งต่อเรือใหม่และการเปลี่ยนระบบเชื้อเพลิงจะชะลอตัวลงชั่วคราว
“ประเทศพัฒนาแล้ว vs ประเทศกำลังพัฒนา”: ความขัดแย้งเชิงโครงสร้าง
ข้อขัดแย้งรอบ NZF ไม่ได้เกิดจากปัญหาทางเทคนิคเท่านั้น แต่ยังมาจากความแตกต่างทางเศรษฐกิจ
ประเทศในยุโรปผลักดันกฎสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น ในขณะที่ประเทศกำลังพัฒนามองว่าภาระต้นทุนและเทคโนโลยีไม่เป็นธรรม
สหรัฐฯ แสดงความกังวลว่า NZF อาจกระทบต่อโครงสร้างการจัดหาเชื้อเพลิงโลก และได้พยายามชักชวนให้ประเทศอื่นๆ คัดค้าน
ในทางกลับกัน กลุ่มประเทศ EU และญี่ปุ่นต้องการเร่งให้เกิดตลาดเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำผ่านการบังคับใช้ NZF โดยเร็ว
แม้ทุกฝ่ายเห็นพ้องในเป้าหมายการลดการปล่อย แต่ความแตกต่างในภาระและความสามารถทำให้การหาฉันทามติเป็นไปได้ยาก
จุดยืนของญี่ปุ่นและแนวทางต่อไป
ญี่ปุ่นยืนยันว่านโยบายการลดการปล่อย GHG ของประเทศจะไม่เปลี่ยนแปลง
แม้จะมองว่าการเลื่อนเป็น “เรื่องที่น่าเสียดาย” แต่ญี่ปุ่นยังคงมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 และจะเดินหน้าหารือในเวที IMO ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความแน่นอนว่าการประชุมครั้งถัดไปในอีกหนึ่งปีจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้
หากความขัดแย้งยังดำเนินต่อไป การบังคับใช้ NZF อาจถูกเลื่อนออกไปอีก และสร้างความไม่แน่นอนในตลาดเพิ่มขึ้น
เวลาที่สูญเสียไปคือ “ต้นทุนที่แท้จริง”
สิ่งที่น่ากังวลที่สุดจากการเลื่อนครั้งนี้คือการสูญเสียเวลา
โครงการพัฒนาเทคโนโลยีทางเรือส่วนใหญ่ใช้เวลาหลายปี การที่กฎเกณฑ์ล่าช้าจะทำให้แผนการลงทุนและการพัฒนาต้องถอยหลังไปด้วย
IMO ตั้งเป้าลดการปล่อย GHG ลง
- อย่างน้อย 20% ภายในปี 2030 (เมื่อเทียบกับปี 2008)
- อย่างน้อย 70% ภายในปี 2040
แต่หาก NZF ถูกเลื่อนออกไป 1 ปี การบรรลุเป้าหมายเหล่านี้จะยิ่งยากขึ้น
นั่นหมายความว่า ภาคอุตสาหกรรมจะต้องเร่งลดการปล่อยในภายหลังเพื่อชดเชยเวลาที่เสียไป
สรุป
การเลื่อนรับรองมาตรการลด GHG ของ IMO ครั้งนี้ เป็นการกด“เบรกที่มองไม่เห็น”ต่อการเปลี่ยนผ่านสู่การเดินเรือปลอดคาร์บอน
แม้จะเป็นความท้าทายของความร่วมมือระหว่างประเทศ แต่เป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ยังคงอยู่
ในความเป็นจริง ความล่าช้าในวันนี้อาจบังคับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วกว่าเดิมในอนาคต
อุตสาหกรรมเดินเรือต้องใช้เวลานี้ในการเตรียมความพร้อม — ทั้งด้านเทคโนโลยี พลังงาน และความร่วมมือ
คำถามคือ เวลาที่เลื่อนไปหนึ่งปีนี้จะกลายเป็น “เวลาที่สูญเสีย” หรือ “เวลาที่ใช้เตรียมตัว” คำตอบนั้นจะกำหนดอนาคตของอุตสาหกรรมเดินเรือโลก