อัตราค่าระวางเรือส่งออกจากเอเชียกำลังแตกต่างชัดเจน

อัตราค่าระวางเรือจากเอเชียไปอเมริกาเหนือลดลงเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน ทำสถิติต่ำสุดใหม่ของปีนี้

ตามดัชนี World Container Index (WCI) ของ Drewry เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน เส้นทางเซี่ยงไฮ้–ลอสแอนเจลิสลดลง 7% เหลือ 2,172 ดอลลาร์ และเส้นทางเซี่ยงไฮ้–นิวยอร์กลดลง 10% เหลือ 2,922 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบประมาณสองปีที่ค่าระวางไปนิวยอร์กต่ำกว่า 3,000 ดอลลาร์

เส้นทางเหล่านี้เคยปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 5 สัปดาห์หลังจากทำระดับต่ำสุดเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม แต่สองสัปดาห์ล่าสุดกลับปรับลดลงอีกครั้ง

สาเหตุมาจากดีมานด์ขนส่งไปอเมริกาเหนือที่ยังอ่อนตัว การปรับขึ้นราคา GRI (General Rate Increase) ที่ไม่ได้ผลมากนัก และจำนวนเรือใหม่จำนวนมากที่ถูกนำเข้าสู่ตลาดจนเกิดภาวะอุปทานล้นตลาด

แม้การระงับภาษีนำเข้าระหว่างสหรัฐ–จีนเป็นเวลา 1 ปีจะสร้างความคาดหวังต่อดีมานด์ล่วงหน้า แต่ในความเป็นจริงดีมานด์ยังไม่ฟื้นตัว

เส้นทางยุโรปปรับเพิ่มอย่างต่อเนื่อง

ในทางตรงกันข้าม อัตราค่าระวางเส้นทางยุโรปปรับเพิ่มขึ้น

เส้นทางเซี่ยงไฮ้–รอตเทอร์ดัมเพิ่มขึ้นเป็น 2,193 ดอลลาร์ (เพิ่มขึ้น 8%) และเส้นทางเซี่ยงไฮ้–เจนัวเพิ่มขึ้นเป็น 2,319 ดอลลาร์ (เพิ่มขึ้น 6%) โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับขึ้นราคา FAK ของสายการเดินเรือหลัก

ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม สายเรือยังประกาศขึ้นราคา FAK เพิ่มเป็น 3,000–4,000 ดอลลาร์ ซึ่งจะยิ่งหนุนราคาต่อไป

นอกจากนี้ยังมีการลดเที่ยวเรือ (Blank Sailing) ทำให้อุปทานตึงตัวและผลักดันค่าระวางขึ้น

ความแตกต่างของตลาดอเมริกาเหนือและยุโรปเด่นชัดขึ้น

เส้นทางหลักจากเอเชียกำลังแสดงให้เห็นถึงทิศทางที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยเส้นทางอเมริกาเหนือลดลง ขณะที่เส้นทางยุโรปเพิ่มขึ้น

เส้นทางยุโรปได้รับแรงหนุนจากการควบคุมอุปทานผ่านการลดเที่ยวเรือ แต่เส้นทางอเมริกาเหนือยังไม่มีมาตรการแบบเดียวกัน ทำให้ทั้งสองตลาดมีความแตกต่างกันมากขึ้น

การเปิดคลองสุเอซอย่างเต็มรูปแบบเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม

ความแข็งแกร่งของตลาดยุโรปจะยังคงต่อเนื่องหรือไม่ และจะส่งผลต่อเส้นทางอเมริกาเหนือหรือไม่ เป็นประเด็นสำคัญของช่วงถัดไป

แม้โอกาสที่ราคาจะปรับขึ้นแรงในช่วงสิ้นปีมีไม่มาก แต่ช่วงเวลาที่ตลาดจะถึงจุดต่ำสุดและความเสี่ยงของการปรับลดต่อไปยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด