Posted on: November 26, 2025 / Last updated: November 26, 2025
การเปิดคลองสุเอซอีกครั้งจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ บทบาทของ Maersk และ CMA CGM ต่อทิศทางโลจิสติกส์ทางทะเล
คำถามว่าเมื่อใดคลองสุเอซจะกลับมาเปิดให้เดินเรือได้อย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง กำลังเป็นประเด็นสำคัญสำหรับการขนส่งทางทะเล โดยเฉพาะหลังเดือนธันวาคม 2025 เป็นต้นไป
หน่วยงานคลองสุเอซ (Suez Canal Authority: SCA) ประกาศว่าได้ทำข้อตกลงเชิงกลยุทธ์กับ Maersk และในแถลงการณ์ร่วมระบุว่าเรือของ Maersk จะเริ่มกลับมาใช้เส้นทางคลองสุเอซแบบค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่เดือนธันวาคม
Vincent Clerc CEO ของ Maersk ระบุว่านี่เป็น “ก้าวสำคัญ” ที่เกิดจากสถานการณ์ในภูมิภาคที่เริ่มมีเสถียรภาพ และแสดงความหวังว่าความสามารถในการให้บริการเต็มกำลังจะกลับมาได้ในอนาคตอันใกล้
CONTENTS
CMA CGM ส่งสัญญาณกลับมาใช้คลองสุเอซเต็มรูปแบบ
SCA ยังระบุว่าการหารือกับ CMA CGM มีความคืบหน้า
โดย CMA CGM มีรายงานว่าได้ตัดสินใจกลับมาใช้เส้นทางคลองสุเอซและช่องแคบบับเอลมันเดบ (Bab el-Mandeb) อย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่เดือนธันวาคม 2025
สายเรือบางรายรวมถึง CMA CGM ได้ทดลองเดินเรือ (Trial Sailing) แล้ว ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการประกาศในครั้งนี้
การเปลี่ยนแปลงในตะวันออกกลางคือปัจจัยสำคัญ
ความเคลื่อนไหวเหล่านี้เชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด
ในเดือนตุลาคม 2025 อิสราเอลและกลุ่มฮูซีบรรลุข้อตกลงสันติภาพใน “ระยะที่หนึ่ง”
จากนั้นในเดือนพฤศจิกายน กลุ่มฮูซีประกาศยุติการโจมตีเรือที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอล
จากสถานการณ์ที่ผ่อนคลายลงนี้ ทำให้บางสายเรือเริ่มทดลองกลับมาใช้เส้นทางผ่านคลองสุเอซอีกครั้งในรูปแบบจำกัด
ช่องว่างของมุมมองระหว่าง SCA และ Maersk
ประเด็นสำคัญคือความแตกต่างของโทนและมุมมองระหว่าง SCA และ Maersk
SCA พูดถึงการกลับมาเปิดใช้คลองในเดือนธันวาคมราวกับเป็นกำหนดการที่ชัดเจนแล้ว
แต่ Maersk ยังคงยืนยันจุดยืนเดิมว่า จะกลับมาใช้คลองสุเอซก็ต่อเมื่อ “เงื่อนไขด้านความปลอดภัยเพียงพอ” และหลีกเลี่ยงการระบุวันที่แน่นอน
ในเดือนมีนาคม 2025 ก็เคยมีการพูดถึงการกลับมาใช้คลองในลักษณะคล้ายกัน แต่ในทางปฏิบัติแล้วไม่ได้เกิดขึ้นจริง ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า SCA อาจประกาศนำหน้าความเป็นจริงอีกครั้ง
หากกลับมาใช้คลองสุเอซ ผลกระทบจะเป็นอย่างไร
หากการกลับมาใช้เส้นทางคลองสุเอซเกิดขึ้นอย่างจริงจัง ผลกระทบจะมีทั้งด้านบวกและด้านลบ
ในระยะยาว จะช่วยให้ซัพพลายเชนมีเสถียรภาพมากขึ้น
แต่ในระยะสั้น โดยเฉพาะช่วงปลายปี อาจทำให้เกิดความปั่นป่วนเพิ่มขึ้น
การเปลี่ยนเส้นทางจากการอ้อมแหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope) กลับมาใช้คลองสุเอซ จะทำให้เวลาขนส่งจากเอเชียไปยุโรปลดลงอย่างมาก
นั่นหมายความว่าเรืออาจไปถึงยุโรปเร็วกว่ากำหนดการเดิม และอาจเพิ่มแรงกดดันให้กับท่าเรือยุโรปที่กำลังเผชิญปัญหาความแออัดอยู่แล้ว
สามประเด็นที่ต้องติดตามต่อจากนี้
มีสามประเด็นหลักที่ควรจับตาอย่างใกล้ชิด
- Maersk จะตัดสินใจว่ามี “ความปลอดภัยเพียงพอ” เมื่อใด และจะกลับมาเดินเรือผ่านคลองสุเอซในทางปฏิบัติจริงเมื่อไร
- CMA CGM จะดำเนินการกลับมาใช้เส้นทางผ่านคลองสุเอซและช่องแคบบับเอลมันเดบอย่างเต็มรูปแบบตามที่ประกาศหรือไม่
- ความแออัดของท่าเรือยุโรปจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด หากมีสายเรือจำนวนมากกลับมาใช้เส้นทางคลองสุเอซ
การกลับมาเปิดใช้คลองสุเอซสามารถช่วยเพิ่มเสถียรภาพในระยะยาว แต่ก็อาจสร้างความผันผวนในระยะสั้น การติดตามการตัดสินใจของสายเรือและสถานการณ์ท่าเรือยุโรปอย่างใกล้ชิดจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ประกอบการโลจิสติกส์และผู้นำเข้า–ส่งออก






