Posted on: December 3, 2025 / Last updated: December 3, 2025
แนวโน้มค่าระวางเรือล่าสุดของเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ
ค่าระวางเรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเมื่ออุปสงค์และอุปทานขยับเพียงเล็กน้อย.
สายการเดินเรือจะประเมินปริมาณงานในแต่ละสัปดาห์ และหากปริมาณจองไม่เพียงพอ จะใช้มาตรการ Blank Sailing โดยยกเลิกเที่ยวเรือบางส่วน.
เมื่อมีการยกเลิกเที่ยวเรือ ปริมาณสินค้าจะไหลไปสัปดาห์ถัดไป ทำให้พื้นที่ระวางตึงตัวมากขึ้น.
วิธีการนี้ช่วยควบคุมปริมาณซัพพลายและลดความเสี่ยงต่อการปรับลดค่าระวางอย่างรวดเร็ว.
CONTENTS
สภาพตลาดที่แตกต่างระหว่างยุโรปและอเมริกาเหนือ
ยุโรปมีการชะลอตัวของดีมานด์ในระดับที่ไม่รุนแรงนัก และการปรับลดสต็อกเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป.
ปริมาณงานจึงคงเส้นคงวา ส่งผลให้สมดุลอุปสงค์–อุปทานไม่เสียหายมากนัก.
ในทางกลับกัน อเมริกาเหนือยังคงเผชิญการลดสต็อกอย่างหนักจากผู้ค้าปลีก.
สถานการณ์นี้ทำให้ปริมาณงานฟื้นตัวยาก และดีมานด์ยังอ่อนตัวต่อเนื่อง.
ผลลัพธ์คือ แนวโน้มค่าระวางของยุโรปและอเมริกาเหนือกำลังเคลื่อนไปคนละทิศทาง.
เหตุผลที่ไม่สามารถนำเรือขนาดใหญ่ไปวิ่งเส้นทางเอเชียได้ง่าย
เส้นทางอเมริกาเหนือมักใช้เรือขนาดใหญ่ 16,000–24,000 TEU สำหรับปริมาณงานจำนวนมาก.
อย่างไรก็ตาม การนำเรือเหล่านี้ไปใช้ในเอเชียไม่ใช่เรื่องง่าย.
- หลายท่าเรือในเอเชียและอาเซียนมีข้อจำกัดด้านความลึกและโครงสร้าง ไม่รองรับเรือขนาดยักษ์.
- เส้นทางอาเซียนมีระดับค่าระวางต่ำ ทำให้การใช้เรือใหญ่ไม่คุ้มทุน.
- เรือขนาดใหญ่ใช้เวลาเทียบท่ามากกว่าและอาจทำให้ท่าเรือแออัดง่ายขึ้น.
ด้วยเหตุนี้ จึงไม่สามารถ “ย้ายเรือส่วนเกินมาเอเชีย” ได้ตามความคิดทั่วไป.
ภาพรวมเส้นทางเดินเรือในปัจจุบัน
เอเชียภายใน: ดีมานด์ตามฤดูกาลและซัพพลายจำกัด ดันค่าระวางให้เพิ่มขึ้น.
อเมริกาเหนือ: ดีมานด์อ่อนตัว ขณะที่เรือใหม่ยังถูกส่งมอบต่อเนื่อง ทำให้ซัพพลายล้นตลาด.
ยุโรป: สายการเดินเรือควบคุมปริมาณเที่ยวเรือผ่าน Blank Sailing ส่งผลให้ค่าระวางทรงตัวถึงปรับขึ้นเล็กน้อย.
แนวโน้มในระยะถัดไป
เส้นทางเอเชียมีโอกาสตึงตัวขึ้นอีกจากปริมาณสินค้าที่เพิ่มก่อนตรุษจีน.
สำหรับยุโรป สถานการณ์ของคลองสุเอซยังเป็นปัจจัยหลักที่ต้องติดตาม.
หากมีการกลับมาเปิดเดินเรืออย่างเต็มรูปแบบ ปริมาณซัพพลายจะเพิ่มขึ้นทันที และความแออัดของท่าเรือยุโรปอาจกลับมาอีกครั้ง.
อย่างไรก็ตาม ค่าระวางอาจไม่ปรับลดลงทันที และยังมีโอกาสผันผวนในระยะสั้น.
อเมริกาเหนือยังอยู่ในช่วงที่ค่าระวางถูกกดดัน แต่การเพิ่ม Blank Sailing อาจชะลอการลดลงได้.
ปัจจัยทางการเมืองของสหรัฐฯ ยังเพิ่มความไม่แน่นอน โดยเฉพาะกรณีมาตรการภาษีที่อาจเปลี่ยนแปลงกะทันหัน.
สรุป
เส้นทางเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ต่างมีสภาพอุปสงค์–อุปทานที่เฉพาะตัว ทำให้ทิศทางค่าระวางแตกต่างกันชัดเจน.
ปัจจัยด้านฤดูกาล ข้อจำกัดของท่าเรือ และความเสี่ยงทางการเมือง ล้วนทำให้ตลาดยังคงคาดเดายาก.
ผู้ส่งออกและผู้นำเข้าควรวางแผนล่วงหน้าตามลักษณะเฉพาะของแต่ละเส้นทาง.






